5 บริษัทยักษ์ใหญ่ ที่แจกโบนัสมากที่สุด!! ประจำปี 2566

จับตากำลังซื้อที่อยู่อาศัยปี 2567 Business World analyzed investments in the world's regions and in ASEAN, government investments inBusiness World analyzed investments in the world's regions and in ASEAN, government investments in international businesses. international businesses. จับตากำลังซื้อที่อยู่อาศัยปี 2567 ยังเปราะบางติดกับดักหนี้ครัวเรือนการปฏิเสธสินเชื่อ สถาบันการเงินสูงตาม โฟกัส บ้านราคา 2-4 ล้านบาทฐานใหญ่ในตลาดอสังหาฯ กระทบหนัก กำลังซื้อที่อยู่อาศัยในปี2567 ยังมีความเปราะบางสูง เพราะมีกับดักในหลายปัจจัย และความท้าทายรอบด้าน โดยเฉพาะตลาดที่อยู่อาศัย ระดับราคา 2-4 ล้านบาท ที่นายวิทย์ กุลธนวิภาส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แคปปิตอล วัน เรียลเอสเตท จำกัด และ เคลเลอร์ วิลเลี่ยม ไทยแลนด์ บริษัทตัวแทนด้านอสังหาริมทรัพย์ไทย สะท้อนว่าตลาดกลุ่มนี้ เป็นฐานใหญ่ที่สุดของผู้ซื้ออสังหาริมทรัพย์ ยังมีปัญหาในเรื่องการปฏิเสธสินเชื่อกู้ซื้อบ้านจากธนาคารค่อนข้างสูง (รีเจ็กต์เรต) เพราะติดภาระหนี้อื่นๆ โดยจะเห็นข่าวอยู่มากเรื่องหนี้ภาคครัวเรือนซึ่งนโยบายเกี่ยวกับการปล่อยสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์มีความเข้มงวดมากเกินไป จากข้อกังวลจากธนาคารแห่งประเทศไทย และใช้มาตรการอัตราส่วนที่ธนาคารสามารถให้สินเชื่อได้ เมื่อเทียบกับราคาบ้านที่ซื้อ (Loan to Value Ratio หรือ LTV) เป็นการแทรกแซงตลาดการให้สินเชื่อระหว่างธนาคารและผู้กู้ โดยพยายามให้สัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อผลิตภัณฑ์รวมในประเทศหรือ GDP ลดลง หากเปรียบเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคเอเชีย เช่น เกาหลีใต้, ฮ่องกง, ไต้หวัน, และออสเตรเลีย จะมีหนี้ภาคครัวเรือนต่อGDPสูงกว่าประเทศไทย ทั้งๆ ที่มีอัตรา GDP ต่อประชากรสูงกว่าไทย 5-6 เท่า และวิธีการประเมินการปล่อยสินเชื่อควรจะต้องมีการปรับเปลี่ยน หลักการในการคำนวณความสามารถในการผ่อนชำระไม่ได้ มีการปรับไปตามยุคสมัยที่เปลี่ยนไป เช่น หนี้บัตรเครดิต ที่ธนาคารพาณิชย์นำหนี้ดังกล่าวมาประเมินผู้ขอสินเชื่อ แต่ในบางประเทศ ธนาคารไม่รวมหนี้บัตรเครดิตมาเป็นปัจจัยหลักในการคำนวณขอสินเชื่อซื้อที่อยู่อาศัย โดยผลการอนุมัติจะใช้ระบบ Credit score ที่เป็นมาตรฐานการคำนวณจากหน่วยงานกลางที่ไม่ใช่ Credit bureau (เครดิตบูโร) หรือ บางครั้งพิจารณาจากความสามารถในการชำระค่าเช่าของผู้กู้มาเป็นหลักการประกอบการพิจารณา การใช้วิธีการประเมินขึ้นอยู่กับหลักการของแต่ละธนาคาร ทำให้การกู้ซื้อบ้านมีอัตราการถูกปฏิเสธสินเชื่อค่อนข้างสูงเพราะไม่มีมาตรฐานที่ชัดเจน ให้กับผู้ที่ต้องการยื่นสินเชื่อบ้าน ที่จะเป็นแนวทางปฏิบัติที่เป็นไปได้ในการเตรียมความพร้อมโดยปัญหาของภาคอสังหาริมทรัพย์ ณ ปัจจุบัน มีผลกระทบจากปัญหาเชิงโครงสร้างเกี่ยวข้องกับสภาวะเศรษฐกิจไทยที่ไม่ชัดเจน และไม่เปลี่ยนเพื่อให้ทันกับสถานะการณ์ทั่วโลก จับตาอสังหาฯปี2567 จับตาอสังหาฯปี2567 นับตั้งแต่หลังช่วงโควิดมา สหรัฐฯได้มีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยค่อนข้างสูงจาก 2.25% ในปี 2562 ก่อนโควิดเป็น 5.5% ณ ปัจจุบัน ซึ่งถ้าเปรียบเทียบกับประเทศไทยแล้วในปี2562 อัตราดอกเบี้ยนโยบายจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)จะอยู่ที่ 1.5%-1.75% แต่ปัจจุบัน จะอยู่ที่ 2.5% เท่านั้น ทำให้เงินทุนไหลออกไปลงทุนในประเทศอื่นค่อนข้างมาก ส่งผลกระทบให้เงินหมุนเวียน หรือสภาพปัจจุบันที่การลงทุนในตลาดทุน ได้ไหลออกจากประเทศไทยค่อนข้างสูง โดยมีดัชนี Set index ตํ่าที่สุดในรอบ 3 ปี และมีผลกระทบต่อความมั่นใจผู้บริโภคอย่างเห็นได้ชัดเจนในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมา ขณะกำลังซื้อของคนไทยได้ถดถอยลงไปมากตามสภาวะการลงทุน ทั้งนี้หลายฝ่ายอาจจะมองว่าการขึ้นอัตราดอกเบี้ย จะเป็นการเพิ่มต้นทุนการทางเงินในการกู้ยืมและส่งผลให้เศรษฐกิจถดถอย แต่อยากให้มองอีกมิติว่า จะทำอย่างไรให้สภาพการลงทุนหรือความมั่นใจผู้บริโภค มีการปรับตัวดีขึ้นจากสภาพ ณ ปัจจุบัน โดยพิจารณาจากสหรัฐฯเป็นตัวอย่าง การขึ้นอัตราดอกเบี้ยสูงแต่สภาวะเศรษฐกิจยังคงดีอยู่ และไม่ทำให้เศรษฐกิจถดถอย ดังนั้นการกำหนดอัตราดอกเบี้ยนโยบายไม่ควรดูจากอัตราเงินเฟ้ออย่างเดียว เนื่องจากประเทศไทยขนาดเศรษฐกิจยังเล็กอยู่ ควรพิจารณาจากสภาพแวดล้อมภายนอกประเทศประกอบด้วย
โบนัส 2555 เงินเดือน รถยนต์ อสังหาริมทรัพย์ อุตสาหกรรม บริษัท
5 บริษัทยักษ์ใหญ่ ที่แจกโบนัสมากที่สุด!! ประจำปี 2555
การให้โบนัสประจำปี…ซึ่งถือเป็นรางวัลตอบแทนชาวออฟฟิศในการทำงานแต่ละปี บางองค์กรก็จ่ายแหลก แจกไม่อั้น!! แต่ก็มีบางแห่งที่ไม่จ่ายโบนัสเลย เนื่องจากผลประกอบการไม่ดี ซึ่งวันนี้เจ๊นำรายงานผลการจ่ายโบนัสของค่ายยักษ์ใหญ่หลายบริษัทในเมืองไทย ประจำปี 2555 ไปดูกันค่ะว่า บริษัทไหนจ่ายหนักที่สุด!!

สรุปผลการจ่ายโบนัสในแต่ละอุตสาหกรรมตามข่าวที่ออกมา เป็นดังนี้
1. อุตสาหกรรมยานยนต์
- โตโยต้า 8.5 เดือน
- มิตซูบิชิ 7 เดือน
- ยามาฮ่า 5 เดือน
- ฮอนด้า 4-5 เดือน
- ผู้ผลิตชิ้นส่วน 4 เดือน + เงินพิเศษ
2. อุตสาหกรรมอาหาร เครื่องดื่ม สินค้าอุปโภคบริโภคและค้าปลีก
- สหพัฒนพิบูล 5 เดือน
- โออิชิ กรุ๊ป 2 เดือน (ขึ้นเงินเดือน 6-7%)
- เซ็นทรัล พัฒนา 3.5 เดือน
- ซีพีเอฟ 2 เดือน (เป็นวัฒนธรรมการจ่ายแบบ fix bonus เท่ากันทุกปี)
- โคคา-โคลา ไม่ระบุ แต่จะจ่ายเป็น variable bonus
- สหฟาร์ม ไม่จ่ายโบนัส
- ยูนิลีเวอร์ ยังไม่พิจารณาโบนัส เพราะมีรอบการจ่ายในเดือนเมษายนของทุกปี
3. อุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์-รับเหมาก่อสร้าง
- ซิโน ไทย  6-10 เดือน
- ศุภาลัย 5-9 เดือน
- พรีบิลท์ 4-6 เดือน
- ช.การช่าง 3 เดือน
- ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น  1 เดือน
4. อุตสาหกรรมการสื่อสารและโทรคมนาคม
- พี เอส ไอ 3-5 เดือน ขึ้นเงินเดือน 15%
- เอ ไอ เอส 4 เดือน
- กสท 4 เดือน
- ดี แทค 1 เดือน
- ที โอ ที 1 เดือน
5. กลุ่มสื่อหนังสือพิมพ์
- เดลินิวส์ 3-4 เดือน
- มติชน 2 เดือน
- กรุงเทพธุรกิจ 1-2 เดือน
- ฐานเศรษฐกิจ 1 เดือน
- โพสต์ทูเดย์ 0.5 เดือน
6. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์
- ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) 2-3 เดือน
- ฟิลลิป 2 เดือน
- เมย์แบงก์กิมเอ็ง ขึ้นเงินเดือน 5-10%
- (บลจ.)กรุงศรี ขึ้นเงินเดือนไม่น้อยกว่า 5%
- ค่าเฉลี่ยในกลุ่มหลักทรัพย์ 2-3 เดือน ปรับเงินเดือน 5-10%
7. การคมนาคมขนส่ง
- ท่าอากาศยานไทย (ทอท.) 7.5 เดือน
- การทางพิเศษแห่งประเทศไทย  5 เดือน
- วิทยุการบินแห่งประเทศไทย 4 เดือน
- โรงแรมเคมปินสกี้ 1.5 เดือน
- บขส.  1 เดือน
8. อุตสาหกรรมการผลิตและส่งออก
- ไทยฮั้วยางพารา 3-6 เดือน
- แพรนด้า จิวเวลรี่ 1-2 เดือน
สรุป ในปี 2555 มีอัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ประมาณ 3.5 -7 % การจ่ายโบนัสส่วนใหญ่คือการจ่ายตามผลประกอบการของบริษัทและผลการปฏิบัติงานของพนักงาน กลุ่มค่ายรถยนต์มีการจ่ายโบนัสสูงสุด เนื่องมาจากอานิสงส์ของนโยบายคืนภาษีรถคันแรก ที่กระตุ้นความต้องการซื้อรถใหม่ทำลายสถิติสูงสุด คือ มียอดการผลิตทะลุ 2 ล้านคัน เฉพาะยอดสั่งจองในงานมอเตอร์เอ็กซ์โปปลายปีที่ผ่านมา ก็สูงเกือบ 9 หมื่นคัน เรียกได้ว่าเป็นนโยบายขายดี จนกรมสรรพสามิตต้องขยายเวลาเปิดรับให้ประชาชนยื่นคำร้องขอคืนภาษีรถคันแรกได้ตั้งแต่ 7 โมง ถึง 2 ทุ่ม ตั้งแต่ 11 ธ.ค.55 เป็นต้นไป
ผลสืบเนื่องจากยอดขายรถยนต์ทะลุเป้า ก็จะทำให้ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับรถยนต์ได้รับอานิสงส์ไปตาม ๆ กัน เช่น ธุรกิจพลังงานเชื้อเพลิง ผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ การบำรุงรักษารถ อุปกรณ์ตกแต่ง การเดินทางท่องเที่ยว ทางด่วน การก่อสร้างเส้นทางคมนาคม ประกันภัยรถยนต์ ฯลฯ แต่ผลกระทบจากการออกรถใหม่เพิ่มขึ้นนี้ก็มีเช่นกัน คือ รถติดมากขึ้น รถมือสองจะยอดตก รวมทั้ง อุตสาหกรรมอื่นๆ ก็จะมียอดตกตามไปด้วย เพราะกำลังซื้อถูกดูดไปเป็นค่าผ่อนรถ ทำให้ผู้บริโภคที่มีภาระค่าผ่อนรถระยะยาวจะชะลอการตัดสินใจซื้อสินค้าฟุ่มเฟือยประเภทอื่น แต่ถ้าใครอยากเกาะกระแสแรงแห่งปีก็ลองคิดโปรโมชั่นหรือทำการตลาดที่เกี่ยวเนื่องกับผู้ใช้รถก็น่าจะเป็นโอกาสที่น่าสนใจ
ส่วนผลกระทบที่เกี่ยวข้องกับการบริหารทรัพยากรบุคคลก็คือ แนวโน้มของแรงดึงดูดในอุตสาหกรรมต่าง ๆ โดยเฉพาะกลุ่มยานยนต์ที่น่าจะมีความสามารถในการดึงดูดแรงงานเข้าสู่อุตสาหกรรมได้มากกว่าอุตสาหกรรมอื่น เพื่อรองรับการขยายกำลังการผลิตที่กำลังมีความต้องการสูง สำหรับในปีหน้า 2556 ที่ค่าแรงจะขึ้นเป็น 300 บาท ทั่วประเทศ ก็น่าจะส่งผลให้มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างเงินเดือน โครงสร้างสัดส่วนแรงงาน ในหลายอุตสาหกรรม อันเนื่องมาจากการเคลื่อนย้ายแรงงานฝีมือ และแรงงานต่างด้าว ระดับของผลกระทบก็ขึ้นอยู่กับความต้องการในการพึ่งพาทักษะแรงงาน และปริมาณกำลังคนในแต่ละอุตสาหกรรมว่ามีความเข้มข้นมากน้อยแค่ไหน
คราวนี้ลองไปตัดสินใจกันดูนะคะ ว่า…จะไปอยู่บริษัทไหนดี แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ อยู่ที่ไหนสบายกายและสบายใจมากที่สุด!! ที่นั่นแหละค่ะ คือที่ของคุณ

ขอบคุณข้อมูลจาก
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ

  • สนใจติดต่อลงโฆษณา

    สนใจติดต่อลงโฆษณาได้ที่ myhappyoffice.com@gmail.com โทรศัพท์ (Tel) : 0 8509 49682 , 0 85835 0165

ความคิดเห็น