25 บริษัทเงินเดือนสูงสุดในโลก
โดย
มิสแซฟไฟร์ 23 เม.ย. 2559 05:01
31,347 ครั้ง
ยุคนี้ถ้าอยากก้าวหน้าเร็วมีเงินเดือนสูง
ก็ต้องกระโดดเข้าไปทำงานในแวดวงบริษัทที่ปรึกษากลยุทธ์ธุรกิจข้ามชาติ
หรือไม่ก็อุตสาหกรรมไฮเทค
เพราะเป็นตลาดแรงงานที่ยอมทุ่มเงินไม่อั้นเพื่อแย่งซื้อตัวคนเก่งๆมีความสามารถ
เงินเดือนจึงสูงลิ่วชนิดไร้เพดานขวางกั้นให้เซ็งจิต!!
เว็บไซต์การจ้างงานทรงอิทธิพลที่สุดของอเมริกา “กลาสดอร์” จัดอันดับ 25 บริษัทเงินเดือนสูงสุดในแดนมะกัน ประจำปี 2016 นอกจากจะรวบรวมตัวเลขเงินเดือนเฉลี่ยแล้ว ยังหยิบรายได้พิเศษอื่นๆมาคำนวณด้วย ไม่ว่าจะเป็นรายได้จากค่าคอมมิชชั่น, โบนัส และโอที โดยบริษัทเงินเดือนสูงอันดับหนึ่งยกให้ “A.T.Kearney” บริษัทที่ปรึกษาด้านการบริหารจัดการธุรกิจระดับโลก ตั้งอยู่ในเมืองชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ พนักงานที่นี่มีรายได้เฉลี่ยปีละ 167,534 ดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็นเงินไทย 6.03 ล้านบาท ขึ้นชื่อว่าเป็นบริษัทใหญ่ที่สอบเข้าทำงานยากที่สุดแห่งหนึ่งของอเมริกา และเป็นบริษัทในฝันของบัณฑิตจบใหม่ เพราะมีครบทั้งความมั่นคง, อนาคตก้าวหน้าทางการงาน, เงินเดือนสูง แถมวัฒนธรรมองค์กรยังเจ๋งซะด้วย ทำให้พนักงานส่วนใหญ่รักและภักดีกับบริษัท
บริษัทเงินเดือนสูงรองเป็นอันดับสองคือ “Strategy&”เป็นบริษัทลูกในเครือของ PwC มีออฟฟิศใหญ่อยู่ในนิวยอร์ก ร่ำรวยจากการให้บริการและรับปรึกษาวางแผนกลยุทธ์ทางธุรกิจระดับโลก รวมถึงการประเมินโอกาสและความเสี่ยงในการลงทุนธุรกิจ พนักงานของบริษัทนี้มีเงินเดือนเฉลี่ยปีละ 160,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ตกราว 5.76 ล้านบาท บรรยากาศการทำงานที่นี่เต็มไปด้วยความเคี่ยวข้น พร้อมรีดศักยภาพที่ซ่อนเร้นออกมาทุกหยาดหยด
แม้ “กูเกิ้ล” และ “เฟซบุ๊ก” จะเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมไฮเทค แต่เอาเข้าจริงๆแล้วสองบริษัทนี้ไม่ได้ให้ผลตอบแทนพนักงานสูงที่สุด เพราะยังมีบริษัทไฮเทคอื่นๆใจปํ้ากว่า มาแรงแบบเงียบๆยกให้ “Juniper Networks” บรรษัทข้ามชาติเจ้าแห่งนวัตกรรมการผลิตอุปกรณ์สำหรับการเชื่อมต่อเน็ตเวิร์กคอมพิวเตอร์ ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1996 ตั้งอยู่ในซันนีเวล รัฐแคลิฟอร์เนีย ปัจจุบันมีพนักงานเกือบ 9,500 คน เงินเดือนเฉลี่ยสูงเป็นอันดับสามของอเมริกา 157,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ เทียบเป็นเงินไทยได้ราว 5.65 ล้านบาท
เป็นอีกหนึ่งบริษัทที่ปรึกษาด้านการบริหารจัดการธุรกิจที่ตัวเลขเงินเดือนสูงลิ่ว สำหรับ “McKinsey & Company” ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในนิวยอร์ก เงินเดือนเฉลี่ยของที่นี่อยู่ที่ 155,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็นเงินไทย 5.58 ล้านบาท มีแต่คนระดับหัวกะทิเท่านั้นที่จะผ่านด่านเข้ามาเป็นสมาชิกของแมคคินซีย์
ใครๆก็คงอยากรู้ว่าบริษัทไฮเทคใหญ่สุดอย่าง “Google” ซึ่งทำเงินมหาศาลจากการเป็นเสิร์ชเอนจิ้นทางอินเตอร์เน็ตที่มีคนใช้งานมากที่สุดในโลก จะมีฐานเงินเดือนสูงขนาดไหน “กลาสดอร์” ค้นคำตอบมาให้เช่นกัน พนักงานกูเกิ้ลได้เงินเดือนเฉลี่ยปีละ 123,331 ดอลลาร์สหรัฐฯ และเพิ่งมีการปรับค่าโอทีกับโบนัสเพิ่มเพื่อป้องกันสมองไหล ทำให้รายได้เฉลี่ยขยับขึ้นไปที่ 153,750 ดอลลาร์สหรัฐฯ เท่ากับเงินไทย 5.58 ล้านบาท
“VMware” เป็นเจ้าแห่งเทคโนโลยีการผลิตระบบคลาวด์ซอฟต์แวร์ ซึ่งทำหน้าที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเซิร์ฟเวอร์คอมพิวเตอร์ พนักงานของที่นี่มีรายได้เฉลี่ย 152,133 ดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็นเงินไทย 5.47 ล้านบาท โดดเด่นเป็นที่ร่ำลือเรื่องสวัสดิการดีเว่อร์ จึงรั้งอันดับ 6 ของการจัดอันดับ
“Amazon Lab 126” ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2004 เพื่อเป็นหน่วยวิจัยพัฒนาออกแบบผลิตภัณฑ์และรูปแบบการให้บริการของเว็บไซต์อเมซอน ยักษ์ใหญ่ค้าปลีกทางออนไลน์ พนักงานของที่นี่มีเงินเดือนเฉลี่ย 150,100 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 5.41 ล้านบาท สูงกว่าพนักงานของ “Facebook” และ “Twitter” ที่มีรายได้เฉลี่ย 150,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ เทียบเท่าเงินไทย 5.40 ล้านบาท เลยถูกจัดอันดับอยู่ที่ 12 และ 13 สาเหตุที่จ้างถูกกว่าคนอื่นได้ เพราะชื่อเสียงของทั้งคู่ดึงดูดให้ใครๆก็อยากทำงานด้วย เลยไม่ต้องเอาเงินมาล่อเยอะ
ส่วน “ไมโครซอฟท์” ที่เคยครองแชมป์หลายสำนัก ปีนี้สู้แรงอัดฉีดไม่ไหวจริงๆ เลยหลุดไปอยู่อันดับที่ 22 เกือบรั้งท้าย เพราะจ่ายเงินเดือนให้พนักงานได้เต็มที่ 141,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ เทียบเท่าเงินไทย 5.07 ล้านบาท บวกลบคูณหารแล้วถ้ากำไรยังหดตัวไม่เลิก อาจต้องฟรีซไม่ขึ้นเงินเดือนไปอีกหลายปี อย่างนี้ต้องซดใบบัวบกแก้เก๊กซิม.
เว็บไซต์การจ้างงานทรงอิทธิพลที่สุดของอเมริกา “กลาสดอร์” จัดอันดับ 25 บริษัทเงินเดือนสูงสุดในแดนมะกัน ประจำปี 2016 นอกจากจะรวบรวมตัวเลขเงินเดือนเฉลี่ยแล้ว ยังหยิบรายได้พิเศษอื่นๆมาคำนวณด้วย ไม่ว่าจะเป็นรายได้จากค่าคอมมิชชั่น, โบนัส และโอที โดยบริษัทเงินเดือนสูงอันดับหนึ่งยกให้ “A.T.Kearney” บริษัทที่ปรึกษาด้านการบริหารจัดการธุรกิจระดับโลก ตั้งอยู่ในเมืองชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ พนักงานที่นี่มีรายได้เฉลี่ยปีละ 167,534 ดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็นเงินไทย 6.03 ล้านบาท ขึ้นชื่อว่าเป็นบริษัทใหญ่ที่สอบเข้าทำงานยากที่สุดแห่งหนึ่งของอเมริกา และเป็นบริษัทในฝันของบัณฑิตจบใหม่ เพราะมีครบทั้งความมั่นคง, อนาคตก้าวหน้าทางการงาน, เงินเดือนสูง แถมวัฒนธรรมองค์กรยังเจ๋งซะด้วย ทำให้พนักงานส่วนใหญ่รักและภักดีกับบริษัท
บริษัทเงินเดือนสูงรองเป็นอันดับสองคือ “Strategy&”เป็นบริษัทลูกในเครือของ PwC มีออฟฟิศใหญ่อยู่ในนิวยอร์ก ร่ำรวยจากการให้บริการและรับปรึกษาวางแผนกลยุทธ์ทางธุรกิจระดับโลก รวมถึงการประเมินโอกาสและความเสี่ยงในการลงทุนธุรกิจ พนักงานของบริษัทนี้มีเงินเดือนเฉลี่ยปีละ 160,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ตกราว 5.76 ล้านบาท บรรยากาศการทำงานที่นี่เต็มไปด้วยความเคี่ยวข้น พร้อมรีดศักยภาพที่ซ่อนเร้นออกมาทุกหยาดหยด
แม้ “กูเกิ้ล” และ “เฟซบุ๊ก” จะเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมไฮเทค แต่เอาเข้าจริงๆแล้วสองบริษัทนี้ไม่ได้ให้ผลตอบแทนพนักงานสูงที่สุด เพราะยังมีบริษัทไฮเทคอื่นๆใจปํ้ากว่า มาแรงแบบเงียบๆยกให้ “Juniper Networks” บรรษัทข้ามชาติเจ้าแห่งนวัตกรรมการผลิตอุปกรณ์สำหรับการเชื่อมต่อเน็ตเวิร์กคอมพิวเตอร์ ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1996 ตั้งอยู่ในซันนีเวล รัฐแคลิฟอร์เนีย ปัจจุบันมีพนักงานเกือบ 9,500 คน เงินเดือนเฉลี่ยสูงเป็นอันดับสามของอเมริกา 157,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ เทียบเป็นเงินไทยได้ราว 5.65 ล้านบาท
เป็นอีกหนึ่งบริษัทที่ปรึกษาด้านการบริหารจัดการธุรกิจที่ตัวเลขเงินเดือนสูงลิ่ว สำหรับ “McKinsey & Company” ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในนิวยอร์ก เงินเดือนเฉลี่ยของที่นี่อยู่ที่ 155,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็นเงินไทย 5.58 ล้านบาท มีแต่คนระดับหัวกะทิเท่านั้นที่จะผ่านด่านเข้ามาเป็นสมาชิกของแมคคินซีย์
ใครๆก็คงอยากรู้ว่าบริษัทไฮเทคใหญ่สุดอย่าง “Google” ซึ่งทำเงินมหาศาลจากการเป็นเสิร์ชเอนจิ้นทางอินเตอร์เน็ตที่มีคนใช้งานมากที่สุดในโลก จะมีฐานเงินเดือนสูงขนาดไหน “กลาสดอร์” ค้นคำตอบมาให้เช่นกัน พนักงานกูเกิ้ลได้เงินเดือนเฉลี่ยปีละ 123,331 ดอลลาร์สหรัฐฯ และเพิ่งมีการปรับค่าโอทีกับโบนัสเพิ่มเพื่อป้องกันสมองไหล ทำให้รายได้เฉลี่ยขยับขึ้นไปที่ 153,750 ดอลลาร์สหรัฐฯ เท่ากับเงินไทย 5.58 ล้านบาท
“VMware” เป็นเจ้าแห่งเทคโนโลยีการผลิตระบบคลาวด์ซอฟต์แวร์ ซึ่งทำหน้าที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเซิร์ฟเวอร์คอมพิวเตอร์ พนักงานของที่นี่มีรายได้เฉลี่ย 152,133 ดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็นเงินไทย 5.47 ล้านบาท โดดเด่นเป็นที่ร่ำลือเรื่องสวัสดิการดีเว่อร์ จึงรั้งอันดับ 6 ของการจัดอันดับ
“Amazon Lab 126” ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2004 เพื่อเป็นหน่วยวิจัยพัฒนาออกแบบผลิตภัณฑ์และรูปแบบการให้บริการของเว็บไซต์อเมซอน ยักษ์ใหญ่ค้าปลีกทางออนไลน์ พนักงานของที่นี่มีเงินเดือนเฉลี่ย 150,100 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 5.41 ล้านบาท สูงกว่าพนักงานของ “Facebook” และ “Twitter” ที่มีรายได้เฉลี่ย 150,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ เทียบเท่าเงินไทย 5.40 ล้านบาท เลยถูกจัดอันดับอยู่ที่ 12 และ 13 สาเหตุที่จ้างถูกกว่าคนอื่นได้ เพราะชื่อเสียงของทั้งคู่ดึงดูดให้ใครๆก็อยากทำงานด้วย เลยไม่ต้องเอาเงินมาล่อเยอะ
ส่วน “ไมโครซอฟท์” ที่เคยครองแชมป์หลายสำนัก ปีนี้สู้แรงอัดฉีดไม่ไหวจริงๆ เลยหลุดไปอยู่อันดับที่ 22 เกือบรั้งท้าย เพราะจ่ายเงินเดือนให้พนักงานได้เต็มที่ 141,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ เทียบเท่าเงินไทย 5.07 ล้านบาท บวกลบคูณหารแล้วถ้ากำไรยังหดตัวไม่เลิก อาจต้องฟรีซไม่ขึ้นเงินเดือนไปอีกหลายปี อย่างนี้ต้องซดใบบัวบกแก้เก๊กซิม.
มิสแซฟไฟร์
โหวตข่าวนี้
- ชอบ 56.6%
- ไม่ชอบ 2.0%
- สนุก 10.1%
- ประหลาดใจ 13.1%
- เสียใจ 5.1%
- ให้กำลังใจ 13.1%
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น